🔒 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล
ศูนย์คอมพิวเตอร์แนะนำ 5 วิธีง่าย ๆ ป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล — เริ่มต้นได้ทันที ปลอดภัยขึ้นทุกคลิก
ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ–นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ หรือข้อมูลบัญชีออนไลน์ ถือเป็นทรัพย์สินสำคัญในยุคดิจิทัล หากข้อมูลเหล่านี้รั่วไหล อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายทั้งในระดับบุคคลและองค์กร เช่น การถูกสวมรอย ปลอมแปลงตัวตน หรือการเข้าถึงบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต
ศูนย์คอมพิวเตอร์จึงขอแนะนำ 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ทันที เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการถูกขโมยหรือรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล
1️⃣ ใช้รหัสผ่านที่ปลอดภัย และไม่ใช้ซ้ำกัน
รหัสผ่านที่เดาง่ายเป็นเป้าหมายแรกของผู้ไม่หวังดี
แนวทางการตั้งรหัสผ่านที่ปลอดภัย ได้แก่
- ใช้รหัสผ่านที่มีความยาวอย่างน้อย 12 ตัวอักษรขึ้นไป
- ผสมตัวอักษร ตัวเลข และสัญลักษณ์
- หลีกเลี่ยงการใช้รหัสเดิมกับหลายเว็บไซต์
- ใช้ Password Manager เพื่อช่วยจัดเก็บและสร้างรหัสผ่านที่ไม่ซ้ำกัน
เพียงเปลี่ยนรหัสผ่านให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ก็สามารถลดความเสี่ยงจากการถูกแฮ็กได้มากกว่าครึ่ง
2️⃣ เปิดใช้ระบบยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (Two-Factor Authentication – 2FA)
ระบบ 2FA เป็นการเพิ่มชั้นป้องกันอีกระดับ แม้ว่าผู้ไม่หวังดีจะทราบรหัสผ่าน ก็ยังไม่สามารถเข้าบัญชีได้
วิธียืนยันตัวตนที่นิยม เช่น
- การใช้แอปยืนยันตัวตน (Authenticator App)
- การรับรหัสผ่านแบบ OTP
- การยืนยันผ่านอุปกรณ์ของผู้ใช้โดยตรง
2FA ถือเป็นแนวป้องกันที่สำคัญที่สุดในยุคที่มีการรั่วไหลของข้อมูลจำนวนมาก
3️⃣ ระวังการกดลิงก์และไฟล์แนบที่ไม่น่าเชื่อถือ
การโจมตีแบบ Phishing เป็นสาเหตุหลักของการขโมยข้อมูลส่วนบุคคล
ก่อนกดลิงก์ ควรตรวจสอบให้แน่ใจเสมอว่า:
- ชื่อผู้ส่งอีเมลมีความถูกต้องและไม่น่าสงสัย
- ลิงก์ไม่ใช่เว็บปลอมที่เลียนแบบหน่วยงานราชการหรือธนาคาร
- ไม่มีข้อความที่เร่งรัดให้รีบดำเนินการ เช่น “รีบกดลิงก์เพื่อยืนยันทันที”
หากไม่มั่นใจ อย่ากดลิงก์ และอย่าให้ข้อมูลส่วนตัวใด ๆ
4️⃣ ตรวจสอบสิทธิ์แอปพลิเคชันและการเข้าถึงข้อมูลบนโทรศัพท์มือถือ
หลายแอปพลิเคชันอาจขอสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลเกินความจำเป็น เช่น กล้อง ไมโครโฟน หรือข้อมูลรายชื่อผู้ติดต่อ
ควรปฏิบัติดังนี้:
- ตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึงเป็นประจำ
- ปิดสิทธิ์ที่ไม่จำเป็นต้องใช้
- ลบแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งาน
โทรศัพท์มือถือถือเป็นศูนย์กลางของข้อมูลส่วนบุคคล หากตั้งค่าความปลอดภัยอย่างเหมาะสม ข้อมูลของเราก็จะปลอดภัยมากขึ้น
5️⃣ หลีกเลี่ยงการโพสต์ข้อมูลส่วนตัวบนสื่อสังคมออนไลน์
ผู้ไม่หวังดีมักใช้ข้อมูลสาธารณะบนโซเชียลมีเดียเพื่อสวมรอยหรือเดารหัสผ่าน เช่น
- วันเดือนปีเกิด
- หมายเลขโทรศัพท์
- ที่อยู่
- ข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัว
ยิ่งโพสต์ข้อมูลส่วนตัวน้อยเท่าใด ความปลอดภัยยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
สรุป
การป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลไม่จำเป็นต้องซับซ้อน เพียงปฏิบัติตาม 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
- ใช้รหัสผ่านที่ปลอดภัย
- เปิดระบบยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA)
- ระวังลิงก์และไฟล์แนบที่ไม่น่าเชื่อถือ
- ตรวจสอบสิทธิ์แอปพลิเคชันอย่างสม่ำเสมอ
- ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวเกินความจำเป็น
เพียงเท่านี้ก็สามารถลดโอกาสการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งสำหรับประชาชนทั่วไปและบุคลากรภาครัฐ